Pages

Platform

R&D

มังคุดนึ่ง

 


รู้แล้วบอกต่อ

มังคุดนึ่ง มีประโยชน์เพิ่มขึ้นหลายเท่า!!


มังคุดนึ่ง ช่วยรักษามะเร็ง,ปอด โรคถุงลมโป่งพอง ขจัดเสมหะในผู้เป็นโรคภูมิแพ้ สารสกัด “แซนโทน” จากเปลือกมังคุดรักษาเซลล์มะเร็ง ฆ่าเชื้อเอดส์

คุณสมบัติและประโยชน์ของมังคุด เมื่อนำไปนึ่งหรือต้มจะเท่ากับ BIM100 สูตรนี้นักเคมีอาหาร อาจารย์ สุวัฒน์ ทรัพยะประภา เป็นผู้วิจัยและให้นำไปรักษาคนเป็นมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง ช่วยขจัดเสมหะในคนที่เป็นภูมิแพ้ได้ดี ทำให้เสมหะน้อยลง


วิธีทำ

นำมังคุดไปนึ่ง 20 นาที หากไม่มีหม้อนึ่งใช้ต้มก็ได้ ทั้งนี้อาจารย์บอกว่านึ่งจะดีกว่า สารแซนโทนจากเปลือกมังคุด จะซึมเข้าไปในเนื้อมังคุดทำให้มีสรรพคุณทางยามากขึ้น เก็บไว้ในตู้เย็น นำมากินวันละผล กินเหมือนกินมังคุดตามปรกติ เพื่อป้องกันหรือรักษาโรคดังกล่าวข้างต้น อาจารย์ให้กินแค่วันละ 1 ผลเท่านั้น อย่ากินมากกว่านี้ เพราะมีคุณสมบัติเป็นยา เมื่อหายแล้วให้เลิกกิน

BIM100 คือ Balancing Immunity หมายถึงการปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้อยู่ในสภาวะปกติ เมื่อ BIM100 แล้วก็สามารถดำรงชีวิตประจำวันได้โดยคำนึงถึงคุณภาพชีิวิตที่ดีขึ้น ผู้ที่จะ BIM100 ได้มีทั้งคนปกติที่ต้องการดูแลบำรุงรักษาสุขภาพ และผู้ป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็ง ภูมิแพ้ ริดสีดวง เบาหวาน รูมาตอย ข้อเข่าอักเสบ แพ้ภูมิตัวเอง สะเก็ดเงิน ธาลัสซิเมีย เป็นต้น


สารสกัด “แซนโทน” จากเปลือกมังคุดรักษาเซลล์มะเร็ง ฆ่าเชื้อเอดส์

จุฬาฯ เปิดผลวิจัยพบ “สารแซนโทน” จากเปลือกมังคุดช่วยต้านอนุมูลอิสระ การอักเสบ สมานแผล รักษาเซลล์มะเร็ง ฆ่าเชื้อวัณโรคชนิดดื้อยา ฆ่าไวรัสเอชไอวี โรคผิวหนังอักเสบและสิว พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าก๊อซ ช่วยผู้ป่วยแผลไฟไหม้และติดเชื้อเคสแรกที่ รพ.นพรัตน์


วันที่ 13 สิงหาคม 2562 ที่อาคารจามจุรี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.ดร.พิชญ์ ศุภผล อาจารย์วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงข่าวเรื่อง “ผลิตภัณฑ์รักษาแผล ป้องกันเชื้อโรค ด้วยสารสกัดจากเปลือกมังคุด นวัตกรรมจากนักวิจัยจุฬาฯ” ว่า สารแซนโทน (Xanthone) มีสรรพคุณทางการแพทย์คือ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และสามารถสมานแผลรักษาเซลล์มะเร็ง และฆ่าเชื้อก่อโรคทางเดินระบบหายใจร้ายแรงได้ เช่น เชื้อวัณโรคชนิดดื้อยา เชื้อก่อโรคผิวหนังอักเสบและสิว และมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อไวรัส เช่น HIV H5N1 เป็นต้น ซึ่งจากการวิจัยพบว่าเปลือกด้านในของมังคุด เมื่อนำมาผ่านกรรมวิธีพิเศษทางเคมีจะสกัดได้สารแซนโทนในปริมาณสูง โดยจะอยู่ในรูปแบบผง ซึ่งเก็บได้นานประมาณ 2 - 3 ปี


ศ.ดร.พิชญ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะนำสารดังกล่าวมาปรับปรุงด้วยกระบวนการทางเคมี เพื่อให้มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อก่อโรคร้ายแรงที่เพิ่มขึ้น และทำการตรึงโมเลกุลของสารแซนโทนให้ติดบนผิววัสดุการแพทย์หลายชนิด เช่น หน้ากากอนามัย แผ่นก๊อซซับแผล พลาสเตอร์ยา น้ำยาทาแผล และแผ่นปิดสิว เป็นต้น ทั้งนี้ จุฬาฯ ได้ทำผลิตภัณฑ์จากเปลือกมังคุด ซึ่งผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า สามารถใช้ได้จริงและมีวางจำหน่ายแล้วประมาณ 6 - 7 กลุ่ม รวมถึงพัฒนาทำเป็นแผ่นก๊อซปิดแผล สำหรับแผลที่มีขนาดค่อนข้างกว้างและใหญ่ ซึ่งนำไปใช้เป็นเคสแรกแล้วที่ รพ.นพรัตนราชธานี


“สำหรับผู้ป่วยรายนี้มาด้วยอาการแผลไฟไหม้ และมีการเชื้อดื้อยาต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 3 เดือน ไม่สามารถกลับบ้านได้ แต่ภายหลังใช้แผ่นก๊อซสกัดจากเปลือกมังคุด 12 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้ นับว่านอกจากมีประสิทธิภาพในการป้องกันและฆ่าเชื้อไวรัส รวมถึงยับยั้งการติดเชื้อต่างๆ ได้แล้ว ผลิตภัณฑ์จากเปลือกมังคุดยังมีราคาถูกและไม่เกิดอาการแพ้ เนื่องจากมีการทดลองในผิวหนังของกระต่าย ที่สำคัญทุกกระบวนการทั้งการวิจัย ผลิต และพัฒนา เป็นฝีมือของคนไทย” ศ.ดร.พิชญ์ กล่าว

เครดิต:ชีวอโรคยาช